วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

ประเภทของ BIG BIKE

สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ๆหรือ Big bikeนั้น โดยทั่วไป จะแบ่งได้ 4 ประเภทใหญ่ๆ 

1. Touring 
2. Sport

3. Cruiser
4. dual purpose 


เริ่มจากประเภทแรก


1. Touring รถประเภทนี้ จะเป็นรถที่ CC สูง เพราะต้องแบกน้ำหนักตัวอันมากมาย และต้องวิ่งในระยะทางที่แสนไกล โดยผู้ขับขี่ ต้องสบายที่สุด ดังนั้น เอกลักษณ์ของรถประเภทนี้คือ บังลมหน้าขนาดใหญ่ กระเป๋าใส่สัมภาระขนาดใหญ่ ที่ติดเป็นส่วนหนึ่งของรถ เบาะคนขี่ กับคนซ้อน ที่แสนสบายดั่งโซฟา รุ่น Top จะมีทั้ง ฮีทเตอร์อุ่นมือ CD, วิทยุ ,GPS ฯลฯ ซึ่งตัว Top นั้น มีขนาด 1800cc ซึ่งมากกว่ารถยนต์หลายๆรุ่นด้วยซ้ำ ราคาก็แพงระดับล้านบาท



2. Sport รถแบบนี้ จะเป็นรถที่รูปทรงปราดเปรียว เบา กำลังเครื่องสูง อัตราเร่งสูง มีบังลม ที่ออกแบบไว้เพื่อหลักอากาศพลศาสตร์โดยเฉพาะ แต่ขนาดต้องเล็กที่สุดเท่าที่จะออกแบบได้ เป็นรถที่ใช้สำหรับแข่งกันกัน เป็นจุดประสงค์หลัก ดังนั้น การออกแบบท่านั่ง จึงไม่สนใจเรื่องความสบายเลยแม้แต่น้อย เน้นแค่ท่าที่จะทำให้ควบคุมรถง่าย และทำให้รถไปได้เร็วที่สุดเท่านั้น แต่การทรงตัวของรถพวกนี้ จะยอดเยี่ยมที่สุด เพราะต้องขี่กันด้วยความเร็วสูง บางครั้ง ขึ้นไปถึง 300km/Hr



3. Cruiser เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการขับขี่ทางไกล หรือท่องเที่ยวความเร็วต่ำเป็นหลัก ไม่มีบังลม ไม่มีกระเป๋า เน้นความดิบ เถื่อน เสียงที่ดังกระหึ่ม และความอึดในการเดินทาง ท่านั่งที่ค่อนข้างสบาย แต่ยังกระด้างอยู่มาก เมื่อเทียบกับรถ Touring ซึ่งเป็นรถที่ถูกเรียกชื่อผิดมากที่สุด เพราะโดยมาก จะคุ้นเคยกับคำว่า Chopper มากกว่า ทั้งที่ เป็นรถคนละประเภทกัน


4. dual purpose เป็นรถที่นิยมกันมาก แถบประเทศทางยุโรป เพราะเป็นรถที่ถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์สำหรับประเทศที่อยู่บนเทือกเขา ขี่ได้ดีทั้งบนทางวิบาก และถนน Highway เรียบๆ ต่างจากรถ Motocross ตรงที่ มีขนาด CC สูงกว่า และสามารถทำความเร็วสูงได้มั่นคงกว่า


สำหรับประเภทย่อยๆก็มีดังนี้

1. Naked Bike เป็นรถ Sport ที่ถูกจับมาแต่งให้เปรียว แรงม้าไม่สูง สำหรับขี่ในเมือง โดยเอาแฟริ่งกันลมออก จะออกหมด หรือเป็นแฟริ่งบางส่วน ก็แล้วแต่จะออกแบบ โดยมาก จะไม่เกิน 900cc เพราะไม่มีบังลม เลยไม่นิยมขี่เร็ว จึงไม่ต้องทำ CC สูงๆ


2.Sport กึ่ง Touring เป็นรถ sport ที่มีแฟริ่งเต็มสูตร แต่ ต่างกันตรงความสบายในการขับขี่ ทั้งคนขี่ และคนซ้อน มีกระเป๋าเป็นอุปกรณ์เสริม เน้นการเดินทางระยะไกลที่ความเร็วสูง

3. Cruiser กึ่ง Touring เป็นรถ Cruiser ที่เอามาจับแต่งองค์ทรงเครื่อง และเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่ แต่ความกระด้าง ยังคงมีอยู่ตามแบบ Cruiser


4. Chopper จะเป็นรถที่ถูกดัดแปลงจาก Cruiser อีกที โดยมีเอกลักษณ์ที่ตะเกียบหน้า หรือโช๊คหน้า ที่ยาวเกือบสองเมตร ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Chopper คือมาจากคำว่า Chopstick ที่แปลว่า ตะเกียบ หรือบางคัน อาจจะหน้าสั้น แต่แฮนด์สูง ที่เรียกว่าแฮนด์โหนนั่นเอง คำว่าช๊อปเปอร์ เป็นคำสแลงเรียกเฮลิคอปเตอร์ของหทารอเมริกา ซึ่งมีลักษณะหางที่ยาว พอเอามาดัดแปลงทำหน้ายาวให้มอเตอร์ไซค์ เลยเรียก Chopper ไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น